โหมด Badass Mode ถือเป็นความท้าทายสูงสุดใน Soul Knight เพราะทุกอย่างในเกมถูกปรับให้โหดขึ้นหลายระดับ ทั้งจำนวนมอน ความเร็วกระสุน ดาเมจที่ผู้เล่นได้รับ และความถึกของบอส ทำให้ใครที่ต้องการผ่านโหมดนี้จำเป็นต้องเข้าใจ “จังหวะการเล่นเชิงลึก” มากกว่าโหมด Classic หลายเท่า ผู้เล่นจำนวนมาก—including ผู้ติดตามกลยุทธ์เกมจากเว็บไซต์คุณภาพอย่างเล่นคาสิโนออนไลน์กับ ยูฟ่าเบท เว็บตรง มั่นคง ปลอดภัย ระบบทันสมัยที่สุด สมัครง่าย ไม่ผ่านเอเย่นต์ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดทุกวัน—มองว่า Badass Mode เป็นสนามประลองทักษะจริงที่แยกมือโปรออกจากมือใหม่
บทความนี้คือ คู่มือผ่านโหมด Badass แบบละเอียดที่สุด แนะนำเทคนิคตั้งแต่การเลือกตัวละคร อาวุธคอมโบที่ดีที่สุด การอ่านกระสุนแบบ Bullet Hell ไปจนถึงวิธีจัดการบอสและไบโอมที่โหดที่สุดของโหมดนี้

โหมด Badass คืออะไร? ทำไมถึงโหดกว่าปกติหลายเท่า?
โหมด Badass คือเวอร์ชัน “เพิ่มความยากสุดขั้น” ของ Soul Knight โดยปรับค่าทุกอย่างดังนี้:
1. ศัตรูมีจำนวนมากขึ้น 50–200%
ด่านหนึ่งอาจมีมอน 20–40 ตัวในรอบเดียว
2. ดาเมจที่ผู้เล่นได้รับเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า
โดนลูกไฟหรือเลเซอร์แค่ 1 ชุด = ล้มได้ทันที
3. กระสุนทุกชนิดเร็วกว่า 30–50%
ทำให้ต้องใช้ Dash อย่างแม่นยำมากขึ้น
4. บอสมีเลือดหนากว่าและมีเฟสยิงเพิ่ม
บอสบางตัวมีรูปแบบโจมตีแบบใหม่ที่ไม่มีในโหมดปกติ
5. ความถี่ของกับดัก–เลเซอร์–พื้นไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะใน Laboratory และ Mechanical Rooms
สรุป:
โหมด Badass ไม่ใช่แค่ “ศัตรูเยอะ” แต่เป็นการรวม Bullet Hell + ความถึก + ดาเมจสูงในระดับที่ผู้เล่นต้องใช้ทักษะจริง ไม่ใช่แค่ดวง
พื้นฐานสำคัญก่อนลง Badass
ผู้เล่นที่ผ่านโหมด Badass มักมีหลักคิดดังนี้:
1. ตัวละครสำคัญกว่าปืน
แม้ปืนดีช่วยได้มาก แต่ถ้าเลือกตัวละครผิด โอกาสตายสูงมาก
2. Dash ต้องแม่น 100%
กระสุนโหมดนี้พลาดไม่ได้
ผิดจังหวะหนึ่งครั้ง = โดนยิงแบบคอมโบจนล้มทันที
3. การยืนตำแหน่งสำคัญที่สุด
ยืนผิดที่ = ตาย
ยืนถูกที่ = เคลียร์ห้องสบายมาก
4. Buff ต้องเลือกแบบ “ตอบโจทย์โหมด Badass”
Buff ดี = เปลี่ยนเกม
Buff ไม่ดี = ไม่ผ่านด่าน 3 แน่นอน
ตัวละครที่ดีที่สุดใน Badass Mode (Tier S)
1) Rogue – เหมาะที่สุดใน Badass (อันดับ 1)
เหตุผล:
- Dash 3 ครั้ง → หลบกระสุน Bullet Hell ได้ดีที่สุด
- เล่นง่าย
- ปืนธรรมดาก็เล่นไหว
2) Knight – แทงค์ที่ผ่านได้สบายที่สุด
- โล่ช่วยแท็งค์ดาเมจ
- เหมาะกับปืนแรงเข้าถึงทุกการเดิมพันได้ง่ายผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ รองรับมือถือทุกระบบ เข้าเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น Shotgun / Laser SMG
- อยู่หน้าทีมได้ดี (ถ้าเล่น Co-op)
3) Assassin – Burst Damage ฆ่าบอสเร็ว
- ล่องหน + ยิงคอมโบ
- เหมาะกับบอสแพทเทิร์นช้า
- แต่ต้องหลบแม่น
4) Wizard – คุมห้องเก่งมาก
- สกิล AoE ฆ่ากลุ่มมอนได้ดี
- เหมาะกับด่านเครื่องกลที่มอนเยอะ
5) Elf – DPS ระยะไกลดีที่สุด
- ยิงทะลุ
- ยิงคมมาก
- เหมาะกับลบศัตรูจากระยะปลอดภัย
อาวุธที่ดีที่สุดใน Badass Mode (แบบไม่ต้องพึ่งดวง)
อันดับ S+
- Ancient Laser Gun
- Laser SMG
- Element Cannon
- Thunder Staff EX
- Void Sword (ประชิดสายโหด)
อันดับ S
- Super Shotgun
- Mechanical Bow
- Plasma Cannon
- Frost Staff EX
อาวุธที่ควรหลีกเลี่ยง
- ปืนที่ยิงช้าเกินไป
- ธนูโหลดนาน
- ปืนลูกซองระดับต่ำ
- มีดสั้นทั่วไป
เพราะมอน Badass วิ่งเร็วเกินกว่าจะใช้ได้อย่างปลอดภัย
Buff ที่ดีที่สุดในการผ่านโหมด Badass
มี 5 ประเภทหลัก:
1. เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ (Critical Tier)
สำคัญสุด เพราะช่วยรอดจาก Bullet Hell ได้
2. เพิ่มพลังโจมตี + Crit
ทำให้ยิงมอนตายไว → ลดความเสี่ยง
3. ลดการใช้พลังงาน
จำเป็นมากเมื่อใช้อาวุธเลเซอร์
4. ยิงทะลุศัตรู
มอน Badass ยืนขวางหลายชั้น ต้องทะลุ
5. เพิ่มระยะ Dash / ลดคูลดาวน์ Dash
ผู้เล่นโปรเลือก Buff Dash ก่อน Buff โจมตีด้วยซ้ำ
วิธีเคลียร์ “ห้องธรรมดา” ใน Badass ให้รอด
นี่คือทักษะสำคัญที่สุดของโหมดนี้
ถ้าผ่านห้องธรรมดาได้แบบไม่เสียเลือด 90% = ผ่านโหมดทั้งเกม
1. ห้ามยืนกลางห้องเด็ดขาด
กลางห้อง = ถูกยิง 360°
ควรยืน “กึ่งขอบห้อง” แล้วสลับตำแหน่ง
2. ต้องอ่านทางกระสุนเหมือน Bullet Hell Game
ในโหมด Badass กระสุน:
- มากขึ้น
- เร็วขึ้น
- ต่อเนื่องขึ้น
วิธีหลบคือ:
- เดินเฉียง
- ไม่หยุดนิ่ง
- Dash เฉพาะจังหวะสุดท้าย
3. จัดการศัตรูอันตรายก่อนเสมอ
ศัตรูที่ต้องฆ่าก่อนเป็นอันดับ 1–4:
- Laser Bot
- Castle Gunner
- Ice Wizard
- Desert Archer
ศัตรูเหล่านี้ยิงแรงจนใครก็ล้มได้ภายใน 1 วิ
4. ยิงมอนที่อยู่ใกล้ตัวก่อน
มอนใกล้ = อันตรายที่สุด
ฆ่าเร็ว = ช่องว่างเพิ่ม
5. กับดักในห้อง Badass ทำดาเมจแรงมาก
เลเซอร์–พื้นไฟฟ้า–ระเบิด จะดาเมจสูงกว่า 2–4 เท่า
ต้องจำไว้ว่า “ห้อง Badass เอาไว้ฆ่าผู้เล่น” ไม่ใช่แค่ศัตรู
วิธีล้มบอสโหมด Badass แบบไม่โดนคอมโบจนตาย
บอสทุกตัวใน Badass จะมี…
- กระสุนเร็วขึ้น
- ระยะยิงกว้างขึ้น
- เฟสเพิ่ม 1–2 เฟส
- เรียกมอนช่วยถี่ขึ้น
ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีผ่านบอสสำคัญ
1) Flame Dragon – บอสที่ฆ่าผู้เล่นมากที่สุดใน Badass
จุดอันตราย:
- พ่นไฟยาวเร็ว
- ลูกไฟจำนวนมาก
วิธีผ่าน:
- ห้ามยืนตรงกลาง
- เดินเป็นวงรี
- Dash ตอนเปลี่ยนเฟสพ่นไฟ
2) Ice Dragon – Freeze + Bullet Hell
วิธีผ่าน:
- อย่าเข้าใกล้
- Dash ผ่านช่องว่างของลูกน้ำแข็ง
- ยิงระหว่างเฟสหยุดนิ่ง
3) Knight Captain – ควงดาบเร็วขึ้น 40%
วิธีผ่าน:
- อย่าเข้าใกล้เกินไป
- Dash ตอนมันเริ่มหมุน
- ปืนไกลช่วยมาก
4) Mecha Knight – เลเซอร์กวาดห้อง
วิธีผ่าน:
- อย่าอยู่เส้นตรง
- Dash เมื่อเห็นมันก้มหน้าชาร์จไฟ
- ยิงตอนมันหยุดพักชั่วคราว
กลยุทธ์ลับที่ผู้เล่นโปรใช้ผ่าน Badass (Rare Tips)
1. วิ่งเป็นตัวเลข 8 (∞) ในห้องกว้าง
รูปแบบนี้ทำให้:
- กระสุนจากหลายทิศโดนยาก
- เป็นจังหวะไหลแบบปลอดภัย
- หลบคอมโบได้เกือบทั้งหมด
2. พยายามทำให้ห้องโล่งก่อนลุยส่วนลึก
อย่ายิงทะลวงเข้าไปกลางห้อง
เพราะมอน Badass จะล้อมเป็นวง
3. ถ้าจะ Dash ให้ Dash “แนวเฉียง” เท่านั้น
Dash ตรง = เสี่ยงโดนกระสุนอีกชุด
Dash เฉียง = ปลอดภัยกว่า
4. อย่ารีบเก็บไอเทมตอนล้ม
ผู้เล่นหลายคนตายเพราะโลภเก็บหีบกลางวงกระสุน
โหมดนี้ต้องใช้หลักการ: “คุมพื้นที่ก่อนเก็บ”
โหมด Badass จะง่ายขึ้น 2 เท่า ถ้าเล่น Co-op
เพราะเมื่อลงแบบทีม จะสามารถแบ่งบทบาทได้:
- คนล่อบอส
- คนยิงไกล
- คนคุมพื้นที่
- คนคอยซัพพอร์ต
การเล่นเดี่ยวยากกว่าเยอะ
แต่ Co-op ทำให้สถานการณ์ง่ายขึ้นมาก
สรุปใหญ่: Badass Mode ไม่ได้ยากเกินไป หากเข้าใจระบบ
ความลับของการผ่านโหมด Badass คือ:
- ยืนตำแหน่งถูก
- Dash แม่น 100%
- เลือกตัวละครให้เหมาะ
- ใช้อาวุธที่เหมาะกับ Bullet Hell
- เลือก Buff ดี ๆ ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว
- อ่านจังหวะบอสให้ได้
ผู้เล่นจำนวนมาก—includingในคอมมูนิตี้และเว็บเกมอย่างสนใจเริ่มต้นเดิมพันออนไลน์กับเว็บตรง สมัคร UFABET วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งโบนัสแรกเข้าและระบบฝากถอนออโต้ รวดเร็ว ปลอดภัย 100%—บอกตรงกันว่า
“Badass ไม่ใช่โหมดของดวง แต่เป็นโหมดของทักษะ”
ใครทำตามคู่มือนี้ จะรู้ว่าผ่านได้ง่ายขึ้นหลายเท่า แม้ไม่ใช่ผู้เล่นโปร